เราแก้แค้นให้เอง กับซีรีส์คนขับแท็กซี่ ที่ไม่ใช่แค่ขับรถ..!

Posted 2022/01/24 378 0

เราแก้แค้นให้เอง สำหรับคนที่โดนรังแก และต้องการเอาคืน ในเมื่อกฎหมายทำอะไรไม่ได้ เราจะแก้แค้นแทนคุณเอง กับอาชีพรับจ้างแก้แค้น

เราแก้แค้นให้เอง มาถึงซีรีส์ที่ได้รับความนิยม เรียกว่าถล่มทลาย กับพระเอกสุดหล่อ และเนื้อเรื่องที่โดนใจใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่เคยโดน ความไม่ยุติธรรมเล่นงาน และเชื่อว่าทุกคน ต้องเคยมีความรู้สึกแค้น แต่ไม่ใช่ทุกคน ที่จะสามารถแก้แค้นได้ แต่จะเป็นอย่างไร หากมี ‘อาชีพรับจ้างแก้แค้น’ ที่พร้อมวางแผน จัดการ และทำสิ่งนี้แทนคุณเอง! กับคำพูดยอดฮิตที่ว่า “อย่าเพิ่งตาย แก้แค้นสิ เราจะจัดการให้เอง”

ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยม และมีกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม ส่วนหนึ่งก็มากจาก การสะท้อนปัญหาสังคม ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง และเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเว็บตูน ซึ่งเล่าถึงธุรกิจขนส่ง ‘แท็กซี่สายรุ้ง’ กลุ่มคนที่ภายหน้า เป็นพนักงานบริษัทแท็กซี่ทั่วไป

ค่ายผู้ผลิตซีรีส์ Taxi Driver กำลังตัดสินใจสร้างซีซั่น 2

แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า การขับแท็กซี่นั้น เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหา ของผู้โดยสารในแต่ละวัน ที่ต้องเจอกับเรื่องราวร้ายๆ ในชีวิต และความอยุติธรรมในสังคม เบื้องหลังนอกจากการขับรถ ส่งผู้โดยสารให้ถึงที่หมายแล้ว พวกเขายังมีบริการพิเศษ ที่รับจ้างแก้แค้นให้กับลูกค้า ที่ส่วนใหญ่คือ คนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมในสังคม หรือเหยื่อที่กฎหมาย ไม่สามารถปกป้องได้

และในทุกๆ ฉากของเรื่องนี้ ยังสามารถตรึงผู้ชม ให้นั่งติดโซฟา เรียกได้ว่าไม่อาจละสายตากันเลยทีเดียว เพราะนอกจากฉากบู๊ การต่อสู้มันๆ ที่เกิดขึ้น และความสะใจ ที่เราอาจได้รับระหว่างดูแท็กซี่สายรุ้ง แก้แค้นกลุ่มคนเลวแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เราเห็น ถึงการใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม รวมถึงยังบอกเล่าถึงเหตุการณ์ คดีฆาตรกรรม การทำร้ายที่เกิดขึ้นจริงทั้งทางตรง และทางอ้อม ผ่านการเล่าเรื่องในซีรีส์ด้วย

ซึ่งหลังจากที่ผู้ชมหลายๆ ท่านได้รับชมเรื่องนี้ ที่ออกฉายให้ได้รับชมกันไปหลายตอนแล้ว คงจะพูดได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ ขับเคลื่อนไปด้วยความแค้น และจุดเริ่มต้นของหลายๆ อย่าง ทั้งแท็กซี่วีไอพีเอง ก็มีขึ้นเพราะความแค้นของจาง ซองชอล ผอ.มูลนิธินกสีฟ้า และเจ้าของแท็กซี่สายรุ้ง ที่มีต่อฆาตรกร ที่ฆาตรกรรมพ่อแม่ของเขา

และไม่ได้มีเพียงแค่ องค์กรต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้ว แรกๆ อาจจะมีแค่กลุ่มเล็กๆ แต่เมื่อมีเจ้าทุกข์เพิ่มขึ้น จนรวบรวมกลุ่มคนที่มีความรู้สึกเดียวกัน และต้องการลงมือแก้แค้นคนเลว ให้คนที่ตกเป็นเหยื่อ เหมือนอย่างพวกเขา รวมไปถึงคิม โดกี ตัวเอกของเรื่อง และตัวหลักในการลงมือแก้แค้นในแต่ละงาน ซึ่งก็มีความแค้นต่อฆาตรกร ที่ฆ่าแม่ของเขาเช่นเดียวกัน

และในที่สุดองค์กร ในการรับจ้างแก้แค้นนี้ ก็ได้มีสมาชิก และผู้จ้างวานเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ความแค้นอย่างเดียว ก็คงขับเคลื่อนไปไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ความแค้นของพวกเขา ไม่ถูกบรรเทาลง คือกฎหมาย การลงโทษ และกระบวนการยุติธรรม ที่ในมุมเหยื่ออย่างพวกเขา ไม่ได้รับการ ‘ยุติ’ อย่าง ‘เป็นธรรม’ จนพวกเขาตั้งตัวเป็นศาลเตี้ย จัดการลงโทษคนเหล่านี้ ด้วยกระบวนการ และวิธีของตัวเอง ซึ่งเขามองว่าเป็นการ ‘ปฏิรูป’ สังคม

 

Taxi Driver, Layanan Jasa Balas Dendam Sopir Taksi

แต่ในเรื่องนี้ ก็ยังมีมุมมองจากผู้ชม ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็คงไม่ผิดอะไร เพราะผู้สร้างเรื่องนี้เอง ก็มองโครงเรื่องไปหลายมุมเช่นกัน จากมุมของแก๊งค์แท็กซี่สายรุ้ง คงเป็นภาพเหยื่อที่ไม่พอใจ กับผลของกระบวนการยุติธรรม แต่สำหรับลูกค้าคนอื่นๆ ของแท็กซี่วีไอพีนั้น พวกเขาพยายามเข้าหา กระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะตำรวจ หรือกรรมการความรุนแรงในโรงเรียน และขั้นตอนต่างๆ แล้ว แต่ถูกเพิกเฉย ไม่ได้รับการช่วยเหลือ จนบีบบังคับให้พวกเขา ต้องเลือกวิธีของแท็กซี่วีไอพี ซึ่งเป็นเหมือนทางลัดด้วย

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งนั้น ผู้ชมอีกส่วนหนึ่งก็ยังคงมีความคิด และความสงสัย พร้อมกับคำถามในซีรีส์เรื่องนี้ คงมีหลายฉาก ที่เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยคิม โดกี และแท็กซี่สายรุ้งในการจัดการกับคนร้าย แต่จริงๆ แล้วการแก้แค้นของพวกเขา เป็นวิธีที่ถูกต้องจริงๆ หรือไม่ รวมไปถึงว่าพวกเขามีสิทธิอะไร ในการแก้แค้นเหล่านี้

สิ่งที่เกิดขึ้นในซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของสังคม หรือเหยื่อที่โดนทำร้าย ในรูปแบบต่างๆ และความไม่เชื่อมั่นต่อระบบตุลาการ กระบวนการยุติธรรม ของกลุ่มคนในเรื่อง อาจคล้ายคลึงกับสถานการณ์หลายๆ อย่างของประเทศไทยที่เกิดขึ้น จนในช่วงที่ผ่านมา มีการเรียกร้องให้คนที่อยู่ ในกระบวนการยุติธรรมมี ‘ความกล้าหาญ’ ในการตัดสินคดี หรือในกระบวนการต่างๆ

ซึ่งก็ทำให้เรานึกถึง ความสัมพันธ์ของอัยการคัง และคิม ที่แม้จะมีจุดยืน และมุมมองในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่แตกต่างกันตลอด และสุดท้ายคิม ก็บอกว่า เขายังไม่เชื่อมั่นในระบบ แต่ตัวเขานั้นก็ยอม ไม่ใช้วิธีของตัวเองในการลงโทษ และให้คนร้ายเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย เพราะเขาเชื่อมั่น และเห็นความกล้าหาญ ในตัวอัยการคังด้วย

ท้ายที่สุดนี้ ถ้าผู้ชมมองอย่างเป็นกลาง และก็คิดในแง่บวก ต่อซีรีส์เรื่องนี้ ทำให้เราเห็นการก้าวไปอีกขั้น ของสื่อบันเทิงเกาหลี ที่ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ เป็นละครภาคค่ำทั่วไป แต่ยังตั้งใจสอดแทรกประเด็น และปัญหาสังคม เข้าไปในเนื้อเรื่องทั้งทางตรง และทางอ้อม และยังร่วมเรียกร้องความยุติธรรม ผ่านตัวละครที่สร้างขึ้นมาเหล่านี้ www.freelinks.org