ซีรีส์ดราม่าย้อนยุค “ลืมเลือนเวลา” ปัญหาความรักที่ชุลมุนวุ่นวาย
Posted 2022/10/14 131 0
ซีรีส์ดราม่าย้อนยุค เรื่องราวของความรักที่โดนชะตากรรมเล่นตลก แต่ยังมีโอกาสโดยการย้อนเวลาให้กลับไปแก้ไขสิ่งที่พลาด
ซีรีส์ดราม่าย้อนยุค วันนี้ขอเอาใจคอซีรีส์จีนกันบ้าง โดยเฉพาะคนที่ชอบแนวย้อนยุค เสื้อผ้าหน้าผมแบบจัดเต็ม ฉากงดงามอลังการ ก็เลยก็จะขอแนะนำและรีวิวซีรีส์จีนเรื่องใหม่แกะกล่อง อีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือซีรีส์จีนเรื่อง “ลืมเลือนเวลา” นั่นเอง ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาว ที่ได้เข้าสู่เส้นทางแห่งอำนาจ แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลก เพราะชายที่นางรักเห็นนางเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง เพื่อทำให้ตัวเองขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งบัลลังก์มังกร การเลือกเดินในเส้นทางที่ผิดในครั้งนี้ ทำให้นางต้องเสียลูกชาย เสียพี่น้อง ข้ารับใช้และคนในครอบครัวไป แต่สุดท้ายเหมือนสวรรค์เมตตา ทำให้นางได้กลับมาย้อนและแก้ไขอดีตอีกครั้ง
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นแนวย้อนยุค แต่ขอบอกเลยว่าไม่ได้มีเรื่องของจอมยุธ หรือว่าพวกใช้กำลังภายในอะไรพวกนี้นะ บอกเลยว่ากลิ่นดราม่าลอยมาเต็มๆ เรียกว่าเรื่องดราม่าความรักนี้มีทุกยุคทุกสมัยจริงๆ แถมยังเป็นดราม่าที่หนักเสียด้วย แต่ข้อดีของซีรีส์เรื่องนี้เลยก็คือ เราจะได้เห็นซิงเฟย ไจ๋จื่อลู่และจิงเชา มาประชันบทบาทกัน ซึ่งนักแสดงทั้งสามคนก็เป็นนักแสดงที่มากความสามารถของประเทศจีน ตอนนี้ซีรีส์ได้ออกอากาศไปครึ่งทางแล้ว เราไปดูกันว่าจุดไหนของซีรีส์ที่โดดเด่นและน่าสนใจกันบ้าง
ซึ่งเรื่องราวหรือว่าพล็อตเรื่องส่วนใหญ่นั้น จะเป็นการเล่าเรื่องของชีวิตหญิงสาวคนหนึ่งเป็นหลัก ซึ่งเป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของลู่อันหรัน (ซิงเฟย) ลู่อันหรันเป็นหญิงสาวมากความสามารถ และฉลาดเป็นกรด อีกทั้งยังครอบครองตำแหน่งคุณหนูใหญ่ ของตระกูลลู่ ซึ่งเป็นตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองซู กิจการที่ตระกูลลู่ครอบครองอยู่คือการคมนาคมทางเรือ ชีวิตของลู่อันหรันเป็นไปได้ด้วยดีตลอดมา อีกทั้งนางยังเป็นที่รักของชาวบ้านอีกด้วย
เรียกว่าเป็นเหมือนกับซีรีส์แนวดราม่าส่วนใหญ่ ที่เริ่มแรกนั้นตัวเอกของเรามีชีวีตดีมาก แต่ไม่นานชีวิตของนางก็เปลี่ยนไป เพราะได้เจอกับมู่ชวน (ไจ๋จื่อลู่) และมู่เจ๋อ (จิงเชา) ลู่อันหรันได้เจอกับจิงเชาขณะแล่นเรือออกไปสำรวจพื้นที่ ในตอนนั้นเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ที่ทำให้ทั้งคู่ได้ช่วยเหลือกันด้วยความบังเอิญ ซึ่งการเจอกันในครั้งนี้ทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แต่ลู่อันหรันไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมู่เจ๋อคืออ๋องชิ่ง หนึ่งในองค์ชายของราชวงศ์
หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวที่ทำให้ทั้งคู่ ได้พบเจอและช่วยเหลือกันมากขึ้น เมื่อถึงวันครบรอบวันเกิด 18 ปีของลู่อันหรัน มู่เจ๋อได้เข้าไปแสดงความยินดีกับนาง และมีเหตุการณ์หลายๆ อย่างที่มู่เจ๋อได้ช่วยนางไว้ ทำให้ลู่อันหรันคิดว่าเขาเป็นชายที่เหมาะสม ที่นางอยากใช้ชีวิตด้วย ส่วนมู่ชวนเป็นองค์ชายเก้าที่รักสันโดษ รักธรรมชาติและชื่นชอบการท่องเที่ยว ลู่อันหรันได้เจอมู่ชวนด้วยความบังเอิญ นั่นเป็นเพราะมีชาวบ้านไปแจ้งว่า มู่ชวนกำลังถอนต้นข้าวในนา ลู่อันหรันจึงจำเป็นต้องไปจัดการกับเขา ทำให้ได้รู้ความจริงว่ามู่ชวนไม่ได้ถอนต้นข้าว แต่กำลังกำจัดวัชพืชที่อยู่ในต้นข้าว
ซึ่งเหตุการณ์รักสามเศร้าของเรื่อง ก็ได้เกิดขึ้นตั้งแต่การเจอกันทั้งแรกของทั้งสามคน ในเหตุการณ์ที่แล่นเรือในตอนแรก ที่ทำให้พี่น้องสองคน ตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน ซึ่งการเจอกันในครั้งแรก ทำให้มู่ชวนประทับใจในตัวลู่อันหรัน และแอบรักนาง แต่แน่นอนว่ารักนี้ไม่ได้สมหวัง เพราะลู่อันหรันเลือกที่จะแต่งงานกับมู๋เจ๋อผู้เป็นพี่ชายของเขา ทำให้นางกลายเป็นพี่สะใภ้ของเขา และเขาจำใจต้องตัดใจให้ได้ ลู่อันหรันคิดว่ามู่เจ๋อเป็นแค่คนธรรมดา แต่เมื่อรู้ว่าเขาเป็นองค์ชายก็ตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังเลือกที่จะแต่งงานในฐานะชายาเอกของอ๋องชิ่ง
แต่เรื่องของความรัก ก็ไม่ได้ราบรื่นตลอดไป เมื่อได้รู้เรื่องราวความลับที่โหดร้าย…
เรื่องราวของความรักของทั้งคู่ ก็ได้ผ่านไปยาวนานและก็มีชีวิตที่ดีเลยก็ว่าได้ ซึ่งทั้งคู่ก็ได้มีลูกด้วยกันหนึ่งคน แต่เรื่องราวที่จะพลิกชีวิตของลู่อันหรันก็เริ่มเกิดขึ้น มู่เจ๋อก็รับเซียวจิงเซวี่ย (จางเจี๋ย) เข้ามาเป็นชายารอง ลู่อันหรันไม่เคยคิดเลยว่า เรื่องนี้จะทำให้นางได้รู้ความจริงอันดำมืดของสามีตัวเอง มู่เจ๋อวางแผนการไว้มากมาย ซึ่งนางก็เป็นหนึ่งในหมากและแผนการของเขา ทุกอย่างที่เขาพูดกับนางล้วนมีแต่คำโกหก มู่เจ๋อเหยียบทุกคนขึ้นไปเพื่อยืนเป็นหนึ่งในบัลลังก์มังกรอย่างภาคภูมิ แต่ลู่อันหรันกลับเสียลูกชาย พี่น้องและครอบครัวไป อีกทั้งยังมารู้ทีหลังอีกว่าน้องสาวต่างมารดา เป็นคนวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น
ถึงแม้ว่าตัวของเธอเอง ซุึ่งในภายหลังจะได้รับตำแหน่งเป็นถึงฮองเฮา แต่เมื่อได้รู้ความจริงของเรื่องทั้งหมดแล้ว นางก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย สุดท้ายลู่อันหรันที่สูญเสียทุกอย่างไป ก็ทำใจไม่ได้ แม้แต่คนที่เข้าใจนางที่สุดอย่างมู่ชวน ก็โดนประทานยาพิษ ลู่อันหรันเลยตัดสินใจจบชีวิตในกองเพลิง แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าการตายในครั้งนี้ ทำให้นางได้ย้อนอดีตมาอยู่ในวัย 18 อีกครั้ง ทำให้ลู่อันหรันมีความคิด ที่จะแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ลู่อันหรันจะทำสำเร็จหรือไม่…ต้องไปดูกันเองแล้วล่ะ www.freelinks.org
ซึ่งต้องบอกเลยว่าสิ่งที่น่าติดตาม และสิ่งที่ให้อรรถรสกับผู้ชมมากที่สุด ก็น่าจะเป็นการเริ่มย้อนเวลานี่แหล่ะ ถือเป็นปมที่ใหญ่ที่สุดในเรื่อง เพราะในอดีตนางตายมาก่อนและกลับมาแก้เกมใหม่ เพื่อไม่ให้ตัวนางเองและคนในครอบครัวได้รับผลกระทบ ซึ่งมันก็จะทำให้คนดูอย่างเราลุ้นว่า นางเอกจะแก้เกมอย่างไรดี ซึ่งปัญหาแรกที่ลู่อันหรันเลือกที่จะแก้ไขเลยก็คือ ปัญหาภายในตระกูลลู่ คนที่นางต้องกำจัดออกไปเลยก็คือแม่เลี้ยง และลู่ซินหรันผู้เป็นน้องสาวต่างมารดา
และแน่นอนว่าชีวิตที่ดูวุ่นวายและน่าเศร้าของตัวเอกของเรา จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีตัวร้ายจอมวางแผนชั่ว โดยตัวละครที่ชั่วที่สุดและร้ายที่สุดต้องมอบให้ให้อ๋องชิ่ง หรือองค์ชายมู่เจ๋อนี่แหละ คนอะไรมันจะลึกล้ำปานนั้น เรียกได้ว่าชั่วสุดๆ ครองตำแหน่งคนโกหก และจัดฉากเก่งให้ชาติไปเลย ในชาติแรกเราจะได้เห็นด้านร้ายๆ ของมู่เจ๋อก่อนที่ลู่อันหรันจะตายเท่านั้น แต่ชาติใหม่เราจะเห็นการไขปมทั้งหมดว่า มู่เจ๋อนั่นร้ายมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ได้เพิ่งมาร้ายแต่อย่างใด การเข้าหาลู่อันหรันคือการจัดฉาก และวางแผนไว้ก่อนทั้งหมด
อีกทั้งตัวซีรีส์ก็ยังแฝงในเรื่อง ความรักสามเศร้า ความสัมพันธ์ของตัวละครเอกทั้งสามคน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่อิรุงตุงนังมาตั้งแต่ชาติแรก ที่มู่เจ๋อเห็นลู่อันหรันเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ชาติที่สองมันพีคมาก ลู่อันหรันและมู่ชวนรักกันอย่างเดียวไม่พอ แต่ชาตินี้มู่เจ๋อก็รักลู่อันหรันเหมือนกัน แต่ไม่อยากยอมรับเลยเลือกจะทรมานนางเอกของเรา ขังไว้ให้เป็นนกน้อยในกรงทอง ประมาณแบบอยู่ก็ต้องเป็นของข้า ตายแล้ววิญญาณก็ต้องเป็นของข้า ประมาณนี้เลย
ในส่วนของจุดเด่นสุดท้ายที่เราจะพูด ของซีรีส์เรื่องนี้ นั่นก็คือเรื่องเสื้อผ้า ฉากและการจัดองค์ประกอบ ก่อนอื่นเรามาพูดเรื่องเสื้อผ้ากันก่อนเลย เสื้อผ้าของนักแสดงเรื่องนี้มีความเรียบหรูและมีสไตล์ ผ่านการออกแบบมาให้เหมาะกับบุคลิกภาพ ของตัวละครแต่ละตัว เสื้อผ้าของเหล่านางร้ายก็จะฉูดฉาดหน่อย ส่วนเสื้อผ้าของฝั่งคนดีก็จะดูเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยความลุ่มลึก ส่วนเรื่องฉากในวังหลวงก็อลังกาลสุดๆ ถึงแม้ว่ายังไม่ได้โดดเด่นเท่าซีรีส์เรื่องอื่น แต่นักแสดงก็สามารถทำให้ฉากเหล่านั้นดูสวยขึ้นได้
และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์แบบย้อนยุค คือการมักจะนำเสนอฉากในเทศกาลต่างๆ ที่ทำให้คู่พระนางได้เจอกัน ซึ่งฉากงานเทศกาลโคมไฟทางเรื่องก็ทำได้ดี มากครบจบในงานเดียวไม่ติดขัด ส่วนในเรื่องของการจัดองค์ประกอบ ชอบตอนนางเอกจุดไฟเผาตำหนักมากที่สุด ในตอนนั้นฉากเสื้อผ้าและองค์ประกอบดูเข้ากันมาก เป็นอีกหนึ่งฉากที่หลายคนมองว่าน่าขนลุก และเก็บรายละเอียดได้ดีมาก ทำให้เราเห็นความสิ้นหวัง ความพังทลาย และความแค้นของตัวละครแบบจริงๆ